เครื่องมือวัดอัตราการไหลของน้ำแบบคลื่นไฟฟ้า (Electromagnetic Flow Meter) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการวัดอัตราการไหลของของเหลว โดยอาศัยหลักการทางไฟฟ้าและแม่เหล็กไฟฟ้า ซึ่งมีหลักการทำงานดังนี้:
1. หลักการทำงานพื้นฐาน เครื่องมือวัดชนิดนี้ใช้หลักการของกฎของฟาราเดย์ (Faraday’s Law of Electromagnetic Induction) ซึ่งกล่าวว่า เมื่อของเหลวที่เป็นสื่อไฟฟ้าไหลผ่านสนามแม่เหล็ก จะเกิดแรงเคลื่อนไฟฟ้าเหนี่ยวนำในของเหลวนั้น
2. โครงสร้างของเครื่องมือ
ขดลวดแม่เหล็กไฟฟ้า ขดลวดแม่เหล็กจะสร้างสนามแม่เหล็กที่ตั้งฉากกับทิศทางการไหลของของเหลว
อิเล็กโทรด อิเล็กโทรดสองตัวจะติดตั้งอยู่ด้านข้างของท่อเพื่อวัดแรงเคลื่อนไฟฟ้าที่เกิดขึ้นในของเหลว
ท่อวัด ท่อวัดที่ทำจากวัสดุที่ไม่เป็นสื่อไฟฟ้า (Non-conductive) จะใช้เพื่อป้องกันไม่ให้กระแสไฟฟ้ารั่วไหลออกจากท่อ
3. การทำงาน
– เมื่อของเหลวที่เป็นสื่อไฟฟ้าไหลผ่านสนามแม่เหล็ก จะเกิดแรงเคลื่อนไฟฟ้าเหนี่ยวนำขึ้นที่อิเล็กโทรด
– แรงเคลื่อนไฟฟ้านี้จะเป็นสัดส่วนกับความเร็วของการไหลของของเหลว
– เครื่องมือวัดจะทำการวัดแรงเคลื่อนไฟฟ้านี้และแปลงเป็นสัญญาณที่สามารถอ่านค่าได้ เช่น อัตราการไหลของของเหลว
4. ข้อดีของเครื่องมือวัดแบบคลื่นไฟฟ้า
– ไม่มีชิ้นส่วนเคลื่อนไหว ทำให้มีความทนทานและต้องการการบำรุงรักษาน้อย
– สามารถวัดอัตราการไหลของของเหลวที่มีการนำไฟฟ้าได้หลากหลายชนิด เช่น น้ำ, น้ำเสีย, สารเคมี
– มีความแม่นยำสูงและสามารถใช้งานได้ในช่วงอัตราการไหลที่กว้าง
5. ข้อจำกัด
– ไม่สามารถใช้วัดของเหลวที่ไม่เป็นสื่อไฟฟ้า เช่น น้ำมัน, ก๊าซ
– ราคาสูงเมื่อเทียบกับเครื่องมือวัดแบบอื่น ๆ
เครื่องมือวัดอัตราการไหลแบบคลื่นไฟฟ้าได้รับการใช้งานอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น อุตสาหกรรมการผลิตน้ำ, การประปา, อุตสาหกรรมเคมี และการบำบัดน้ำเสีย เป็นต้น