หน้าแรก ข่าวอุตสาหกรรม อดีตขุนคลังชี้เงื่อนงำโครงการรถไฟความเร็วสูงซีพี-เชื่อเปิดสภาฯเจอชำแหละแน่

อดีตขุนคลังชี้เงื่อนงำโครงการรถไฟความเร็วสูงซีพี-เชื่อเปิดสภาฯเจอชำแหละแน่

1657
0

วันที่ 17 พ.ค.62 นาย ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thirachai Phuvanatnaranubala – ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล ระบุข้อความว่า

“เปิดสภาเมื่อไหร่ รถไฟความเร็วสูงจะถูกวิจารณ์” นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวถึงโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ว่าเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง แต่อัตราผลตอบแทนไม่สูง

“โครงการนี้ถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานแรกของภูมิภาคอาเซียน และเขตพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC ซึ่งจะผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลาง หรือ HUB ของอาเซียน และสามารถส่งเสริมประเทศเพื่อนบ้านในแถบ CLMV ให้เติบโตไปพร้อม ๆ กันแบบยั่งยืนได้อีกด้วย”

ผมขอให้ข้อสังเกตแก่รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ว่า การจะทำโครงการพัฒนาที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติ ประชาชน และสังคม อย่างแท้จริงนั้น …ต้องใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียง

การจะใช้รถไฟเป็นอุปกรณ์หลักในการเชื่อมเมืองใน EEC และทำให้ไทยเป็น HUB ของอาเซียน รวมทั้งส่งเสริมประเทศใน CLMV นั้น มีทางเลือกได้ 2 ทาง

***วิธีการที่เสี่ยงสูงและอัตราผลตอบแทนต่ำ

คือการสร้างรถไฟความเร็วสูง ซึ่งต้องใช้รางมาตรฐาน 1.43 ม. ต้องลงทุนวางรางใหม่ทั้งหมด ทำเป็นแบบรางคู่เพื่อให้สวนกันได้ตลอดเวลา และทุกจุดที่ตัดกับถนน ก็ต้องยกระดับข้ามถนนไป
แต่วิธีนี้ กว่าไทยจะเป็น HUB ของอาเซียน จะใช้เวลาอีกนานมาก เพราะประเทศใน CLMV ไม่มีราง 1.43 ม. อยู่เลย แม้แต่ กม. เดียว (ยกเว้นเส้นที่เชื่อมเวียดนามทางเหนือไปจีนเท่านั้น)
ไม่มีใครบอกได้ว่า ประเทศใน CLMV จะมีความพร้อมที่จะสร้างราง 1.43 ม. เมื่อใด ดังนั้น การที่จะทำให้ไทยเป็น HUB ของอาเซียน รวมทั้งส่งเสริมประเทศใน CLMV นั้น …จึงเป็นฝันกลางวัน!
แต่วิธีนี้ เนื่องจากเสี่ยงสูงและอัตราผลตอบแทนต่ำ รัฐบาลพลเอกประยุทธ์จึงต้องแถมที่ดินมักกะสัน 150 ไร่ เพื่อล่อใจ เพื่อให้เอากำไรจากการพัฒนาเชิงพาณิชย์ชดเชย

นอกจาก รฟท. จะต้องเสียสมบัติที่ ร.5 พระราชทานให้แล้ว รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ยังจะต้องใช้เงินของประชาชนสนับสนุนอีก 1.4 แสนล้านบาท วิธีนี้เรียกว่าเศรษฐกิจไม่เจียมตัว เห็นช้างขี้ก้อนใหญ่ ก็อยากขี้ตามช้าง

***วิธีการที่เสี่ยงต่ำและอัตราผลตอบแทนสูง

คือการทำรถไฟรางคู่ให้สมบูรณ์แบบ ซึ่งใช้รางมาตรฐาน 1 ม. ที่มีอยู่เดิม ทำแบบรางคู่เพื่อให้สวนกันได้ตลอดเวลา และทุกจุดที่ตัดกับถนน ก็ต้องยกระดับข้ามถนนไป
วิธีนี้ คือทำให้เป็นรถไฟความเร็วปานกลาง

วงเงินลงทุนเพิ่มขึ้นไม่มาก เพราะใช้สิ่งของที่มีอยู่เดิมเป็นหลัก วิธีนี้ ไทยจะเป็น HUB ของอาเซียนได้ทันที เพราะทุกประเทศใน CLMV มีราง 1 ม. อยู่พร้อมแล้ว เป็นมาตรฐานรถไฟร่วมกันมานาน ตั้งแต่สมัย ร.5 เป็นต้นมา

การเชื่อมโยงจาก EEC เข้าไปกัมพูชาและเวียดนามจึงจะเกิดขึ้นได้เร็ว ไม่ใช่ฝันกลางวัน! วิธีนี้ ไม่ต้องแถมที่ดินมักกะสัน 150 ไร่ เพื่อล่อใจ เพื่อให้เอากำไรจากการพัฒนาเชิงพาณิชย์ชดเชย และไม่ต้องใช้เงินของประชาชนสนับสนุนอีก 1.4 แสนล้านบาท วิธีนี้เรียกว่าเศรษฐกิจพอเพียง

ในข่าวข้างล่าง ทั้งพรรคเพื่อไทยและพรรคอนาคตใหม่ให้ความสนใจโครงการนี้ พรรคอนาคตใหม่ตั้งคำถาม ก็ในเมื่อกำลังจะมีรัฐบาลใหม่ ทำไมจะต้องรีบเร่งด่วนจี๋ในช่วงพลบค่ำขมุกขมัวอย่างนี้ พรรคเพื่อไทยก็กล่าวว่า ทางพรรคได้ขอข้อมูลรายละเอียด แต่ปรากฏว่าดำมืดไปหมด ไม่ได้ข้อมูลทางการเลย

ผมฟัง อ.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล ท่านบอกว่าขอให้พลเอกประยุทธ์เร่งตั้งรัฐบาลไปเถิด เพราะเมื่อมีสภาแล้ว ทุกเรื่องในรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ที่มีอะไรน่าสงสัย จะถูกหยิบยกขึ้นมาซักฟอกได้หมด

เพราะถึงแม้เรื่องผ่านการอนุมัติแล้ว ถึงแม้จะมีการรีบเร่งทำสัญญากันไปแล้ว แต่การดำเนินการจริงยังไม่เริ่ม ส่วนใหญ่จึงเป็นเรื่องที่รัฐบาลใหม่ยังจะต้องสางต่อ ฉะนั้น คนที่เกี่ยวข้องควรจะระมัดระวัง เพราะผู้ที่จะมีความผิด ติดคุกได้นั้น จะไม่ใช่เอกชน แต่จะเป็นข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจทั้งหลาย …

ถ้าใช้ดุลพินิจที่น่าสงสัยว่า เข้าข่ายเบียดบังประโยชน์ของชาติไปให้เอกชน … ถ้าเข้าข่ายว่า ส่อเจตนาช่วยเหลือให้เอกชนได้ประโยชน์ ทั้งที่มีทางเลือกที่ดีกว่าสำหรับประเทศอย่างเห็นได้ชัด