นายคงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีทีที โกลบอลเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือจีซี เปิดเผยว่า จีซีเป็นเรือธงในธุรกิจเคมีภัณฑ์ของกลุ่ม ปตท. ที่มีการผลิตเม็ดพลาสติกป้อนเกือบทุกอุตสาหกรรม โดยมีเป้าหมายว่าจะดำเนินธุรกิจให้มีกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) อยู่ที่ 100,000 ล้านบาท ภายใน 3-5 ปี จากปัจจุบันอยู่ที่ปีละ 60,000 ล้านบาท และ 10 ปีที่ผ่านมาจีซีลงทุนต่างประเทศไปแล้ว 1,000 ล้านดอลลาร์ และภายในปี 2573 จีซีจะมีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศ 30% จากปัจจุบันไม่ถึง 10%
สำหรับการลงทุนในประเทศ ก็ได้ลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) รวม 100,000 ล้านบาท เป็นผู้ลงทุนรายใหญ่ที่สุด และจะลงทุนเพิ่มอีก 60,000 ล้านบาท ผ่าน 3 โครงการหลักๆ อาทิ โครงการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตโอเลฟินส์ และที่ผ่านมาได้มีส่วนช่วยดึงนักลงทุนญี่ปุ่นเข้ามาในอีอีซี 10 ราย ในกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์และการผลิตสินค้ากลุ่มปลายน้ำ เช่น สีเคลือบรถยนต์ เบาะรถยนต์ เฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น และปีหน้าจะใช้เงินลงทุนรวม 34,000 ล้านบาท
จีซียังได้ลงทุนในกลุ่มเคมีภัณฑ์ประสิทธิภาพสูง และผลิตภัณฑ์รักษ์สิ่งแวดล้อม คิดเป็นสัดส่วน 30% เพื่อเพิ่มมูลค่า ทำให้จีซีเป็นบริษัทปิโตรเคมีที่ได้รับผลกระทบน้อยที่สุดเมื่อถึงวงจรขาลงของอุตสาหกรรมนี้ ที่จะเกิดขึ้นทุกๆ 4 ปี และในเร็วๆนี้ก็จะเข้าไปลงทุนในสหรัฐฯ เพราะเป็นประเทศที่มีการลงทุนเชลล์แก๊สจำนวนมหาศาลทำให้ต้นทุนการผลิตที่ต่ำมาก ขณะที่สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนได้ทำให้ความต้องการปิโตรเคมีลดไปมากในทุกอุตสาหกรรม แต่ปีหน้าคาดว่าจะฟื้นตัวดีขึ้น.